ข้อควรพิจารณาก่อนซื้อกล้องวงจรปิดอินฟราเรด

กล้องวงจรปิดแบบอินฟราเรด (Infrared CCTV Camera) ราคาลดลงอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่าน ซึ่งเป็นผลดีต่อผู้ต้องการเลือกใช้งานกล้อง ‘ตาสว่าง’ นี้ในระบบกล้องวงจรปิด (หรืออาจเรียก กล้องรักษาความปลอดภัย, กล้องตรวจตราและเฝ้าระวัง … Closed Circuit TeleVision, Security Camera, Surveillance Camera)

อินฟราเรดถูกนำมาใช้ประโยชน์หลากหลายทั้งงานด้านทหารและพลเรือน อาทิ อินฟราเรดตรวจจับความร้อน, ตรวจหาจุดที่การเชื่อมต่อต่างๆบกพร่องหรือไม่สมบูรณ์, ตรวจสอบการรั่วไหลในอุตสาหกรรมเคมี, การใช้งานในสนามบินเพื่อตรวจสอบร่างกายและ/หรือกระเป๋าผู้โดยสาร รวมถึงการใช้อินฟราเรดกับกล้องวงจรปิด เพื่อเฝ้าจับตาเหตุการณ์ต่างๆในเวลากลางคืน หรือสภาวะแสงน้อยมาก

กล้องวงจรปิดแบบอินฟราเรด (หรือ Infrared Radiation Camera, IR Camera) เป็นกล้องที่ใช้แสงจากหลอดอินฟราเรดที่อยู่คู่ตัวกล้องส่องกระทบวัตถุ (อินฟราเรดอยู่ในย่านความถี่ที่สายตาคนมองไม่เห็น แต่สัตว์บางชนิดและกล้องอินฟราเรดสามารถรับรู้) เพื่อให้กล้องจับภาพในพื้นที่แสงน้อยได้ ตัวเซ็นเซอร์ด้านหน้าของกล้องเป็นผู้ตรวจวัดระดับแสง แล้วส่งสัญญาณให้อินฟราเรดทำงานเมื่อแสงลดต่ำถึงระดับที่กำหนด ซึ่งจะเปลี่ยนผลลัพธ์ของภาพจากสีเป็นขาว/ดำทันที

เลนส์ของกล้องวงจรปิดอินฟราเรดทำจาก Germanium (สัญลักษณ์ Ge ในกลุ่ม IVa ของตารางธาตุ) ซึ่งเป็นธาตุที่อยู่ระหว่างซิลิคอน (Si) และดีบุก (Sn) มีคุณสมบัติก้ำกึ่งโลหะและอโลหะ มีราคาค่อนข้างสูง แต่จำเป็นต้องใช้ผลิตเลนส์กล้องอินฟราเรด เนื่องจากพลาสติกหรือแก้วที่ใช้ผลิตเลนส์ทั่วไปนั้น รังสีอินฟราเรดไม่สามารถผ่านได้เพียงพอต่อการใช้งาน

ปัจจุบันเทคโนโลยีกล้องวงจรปิดแบบอินฟราเรดถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และเข้าสู่ระบบ Smart IR หรือ Array ซึ่งเป็นการทำงานของอินฟราเรดกึ่งอัจฉริยะ สามารถแก้ไขข้อด้อยของกล้องอินฟราเรดแบบเดิมๆได้หลายประการ อาทิ ความร้อนลดลง, ภาพคมชัดเพิ่มขึ้น, เพิ่มหรือลดแสงได้ด้วยตัวกล้องเอง, ระยะการมองเห็นไกลกว่าเดิมนับสิบเมตร รวมถึงการใช้หลอดแบบเดี่ยว ทำให้ขนาดกล้องเล็กลง ดูสวยงามน่าใช้ยิ่งขึ้น

ข้อพิจารณาต่างๆก่อนตัดสินใจซื้อกล้องวงจรปิดแบบอินฟราเรด อาจสรุปได้ดังนี้

๏ คุณภาพเหมาะกับงบประมาณ

กล้องอินฟราเรดส่วนใหญ่ให้ความละเอียด/คมชัดน้อยกว่ากล้องมาตรฐาน แต่ก็มีกล้องอินฟราเรดความละเอียดสูงที่สามารถมองเห็นวัตถุขนาดเล็กได้จากระยะไกล และสร้างภาพที่คมชัดยิ่งขึ้น ซึ่งราคาก็แปรผันตามความสามารถ

๏ ให้ผลลัพธ์แม่นยำ

ความแม่นยำการมองเห็นของกล้องอินฟราเรด เป็นปัจจัยสำคัญในการกำหนดคุณภาพและคุณค่าของกล้อง ซึ่งผู้ใช้กล้องอินฟราเรดในครั้งแรกอาจสับสนเล็กน้อยกับหัวข้อนี้ แต่คุณสมบัติดังกล่าวมักมีความหมาย และถูกพิจารณามากขึ้นตามประสบการณ์ของผู้ใช้

๏ ทนสภาวะอากาศ

กล้องวงจรปิดแบบอินฟราเรดหลายตัวอาจถูกติดตั้งในที่แจ้ง ตากแดด เปียกฝน ดังนั้นมันจึงควรต่อต้านผลกระทบดังกล่าวได้ระดับใดระดับหนึ่ง ตามมาตรฐาน IP (Ingress Protection Ratings หรือ มาตรฐานการป้องกันน้ำและฝุ่นที่กระทำต่ออุปกรณ์ใดๆ)

๏ รองรับเทคโนโลยีไร้สาย

กล้องวงจรปิดแบบอินฟราเรดควรมีความสามารถเชื่อมต่อแบบไร้สายได้ อาจโดย Wi-Fi หรือเครือข่ายอินเทอร์เน็ต หรือการเชื่อมโยงไร้สายรูปแบบอื่น เพื่อเป็นทางเลือกในการดูหรือบันทึกภาพที่ได้ให้หลากหลายช่องทางมากขึ้น

๏ ใช้งานง่าย ปรับแต่งสะดวก

น้ำหนักของกล้องเป็นสิ่งหนึ่งที่ควรพิจารณา แม้ว่าสถานที่ติดตั้งสามารถรองรับได้แบบชิลๆก็ตาม กล้อง IR ขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบามีให้เลือกมากมาย บางรุ่นมีเลนส์ที่สามารถเอียงตามแนวแกนได้ถึง 120 องศา ช่วยให้ผู้ใช้ได้รับความสะดวกในการปรับแต่งมุมกล้อง บางรุ่นมีปุ่มปรับแต่งใดๆที่ตัวกล้อง ก็ควรอยู่ในตำแหน่งที่ใช้งานง่าย กดปุ่มสะดวก การมีปุ่มเดียวอาจสะดวกน้อยกว่าหลายปุ่ม

๏ ซอฟต์แวร์น่าสนใจ

กล้องอินฟราเรดส่วนใหญ่มักมาพร้อมกับซอฟต์แวร์ฟรี ที่ช่วยการวิเคราะห์ภาพขั้นพื้นฐาน บางซอฟต์แวร์อาจวิเคราะห์ภาพเชิงลึกได้ ทำให้ผู้ใช้ได้ประโยชน์จากคุณสมบัติของกล้องอย่างเต็มความสามารถ

๏ การจัดเก็บและส่งออกไฟล์

กล้องวงจรปิดแบบ IR ควรเก็บภาพและส่งออกได้ในรูปแบบที่สามารถอ่านและวิเคราะห์ได้ด้วยซอฟต์แวร์มาตรฐาน กล้องบางรุ่นมีเพียงไฟล์ JPEG ในขณะที่กล้องอินฟราเรดบางรุ่นสามารถสตรีมวิดีโอ MPEG 4 ผ่าน USB ไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์หรือแพลตฟอร์มอื่นสำหรับการดูภาพ กล้องบางตัวมีสัญญาณภาพแบบคอมโพสิต รวมถึง HDMI Output สิ่งเหล่านี้อาจช่วยให้สามารถนำภาพที่จับไว้ได้มาใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

๏ การรับประกัน

แน่นอนว่าการซื้อสินค้าใดๆที่ราคาค่อนข้างสูง ควรมีเงื่อนไขการรับประกัน ผู้ผลิตกล้องวงจรปิดอินฟราเรดควรสร้างความมั่นใจให้ว่าที่ลูกค้าต่อตัวสินค้าและบริการหลังการขาย กล้องที่ตัดสินใจซื้อควรมาพร้อมการรับประกันที่ครอบคลุม เพื่อความเชื่อมั่น และอุ่นใจ

๏ บริการหลังการขาย

กล้องวงจรปิดแบบอินฟราเรดมีราคาค่อนข้างสูงแล้ว ผู้ขายหรือเจ้าของผลิตภัณฑ์ควรให้การสนับสนุนด้านต่างๆหลังขายสินค้า อาทิ ด้านเทคนิค การฝึกอบรม และอื่นๆที่เป็นประโยชน์หลังการขาย คุณภาพสินค้าและการบริการลูกค้า การสนับสนุนทางเทคนิค ควรเป็นสิ่งสำคัญในการตัดสินใจซื้อกล้อง CCTV อินฟราเรด ผู้จะซื้อควรตรวจสอบให้แน่ใจว่า ได้ใช้ประโยชน์จากการฝึกอบรมต่างๆ ทั้งใน/นอกสถานที่ รวมถึงออนไลน์ อย่างน้อยก็ควรมั่นใจว่า ซื้อแล้วไม่เสียความรู้สึก แน่ๆ

แม้ราคากล้องวงจรปิดแบบอินฟราเรดลดลงมากแล้ว แต่ก็ยังคงมีราคาสูงเมื่อเทียบกับกล้อง CCTV ทั่วไป ผู้ต้องการใช้งานควรพิจารณาความคุ้มค่าให้เหมาะกับงบประมาณที่มีอยู่ แม้ IR Camera จะมีประโยชน์โดดเด่นกว่ากล้องวงจรปิดมาตรฐานก็ตาม